
สร้างธุรกิจให้เติบโตด้วยกลยุทธ์ทางการตลาด เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม

สร้างธุรกิจให้เติบโตด้วยกลยุทธ์การตลาด
ในการทำธุรกิจ ถ้าเราต้องการให้ประสบความสำเร็จ และธุรกิจของเรามีความแตกต่างกว่าคนอื่น เราต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่างที่จะทำให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพมากที่สุด หนึ่งในนั้นคือการสร้างกลยุทธ์การตลาด ถ้ากลยุทธ์ที่เราได้วางแผนออกมาสามารถที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ นั่นก็จะส่งผลให้ธุรกิจมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้น การตลาดแบบเดิมอาจไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้อีกต่อไป การตลาดแบบใหม่จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่าแนวคิดและกลยุทธ์ของการตลาดแบบใหม่นั้นเป็นอย่างไร และจะนำไปใช้กับธุรกิจของคุณได้อย่างไรบ้าง
กลยุทธ์การตลาดคืออะไร
กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) คือ แนวทางหรือแผนการที่ธุรกิจใช้เพื่อโปรโมทธุรกิจของตนเองให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มยอดขาย ขยายตลาด และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดจริงๆ แล้วมีหลากหลายประเภทมาก ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้กลยุทธ์อะไรที่จะสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรเรามากที่สุด ยิ่งเราเลือกใช้กลยุทธ์ได้เหมาะสมมากเท่าไร โอกาสที่ธุรกิจจะประสบความสำเร็จก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น โดยจะขอยกตัวอย่างกลยุทธ์ขึ้นมา 9 ประเภทที่หลายๆ ธุรกิจมักจะเลือกใช้ ดังนี้
ประเภทของกลยุทธ์การตลาด
1. กลยุทธ์การตลาดเชิงรุก (Proactive Marketing Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่ธุรกิจริเริ่มแคมเปญหรือวิธีการใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดก่อนที่คู่แข่งจะทำ
2. กลยุทธ์การตลาดเชิงรับ (Reactive Marketing Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์หรือแนวโน้มตลาดที่เกิดขึ้น โดยอาจเป็นการตอบสนองต่อพฤติกรรมลูกค้า หรือการเคลื่อนไหวของคู่แข่ง
3. กลยุทธ์การตลาดเชิงรุกเชิงรับ (Hybrid Marketing Strategy) เป็นการผสมผสานกลยุทธ์เชิงรุกและเชิงรับเพื่อให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่น และสามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์
4. กลยุทธ์ 4P (Product, Price, Place, Promotion) เป็นโมเดลพื้นฐานที่เน้น 4 องค์ประกอบสำคัญของการตลาด ได้แก่
- Product (สินค้า) – การพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
- Price (ราคา) – การกำหนดราคาที่เหมาะสม
- Place (ช่องทางการจัดจำหน่าย) – การกระจายสินค้าถึงลูกค้า
- Promotion (การส่งเสริมการขาย) – การใช้กลยุทธ์โฆษณาและโปรโมชั่น
5. กลยุทธ์ STP (Segmentation, Targeting, Positioning)
- Segmentation (การแบ่งกลุ่มตลาด) – วิเคราะห์และแบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่ม
- Targeting (การเลือกกลุ่มเป้าหมาย) – เจาะกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสม
- Positioning (การวางตำแหน่งทางการตลาด) – สร้างความแตกต่างของแบรนด์
6. กลยุทธ์การตลาดแบบดิจิทัล (Digital Marketing Strategy) ใช้ช่องทางออนไลน์ เช่น โซเชียลมีเดีย การตลาดผ่านอีเมล และ SEO เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงธุรกิจของเรา
7. กลยุทธ์การตลาดแบบปากต่อปาก (Word of Mouth Marketing) กระตุ้นให้ลูกค้าบอกต่อเกี่ยวกับสินค้าและบริการของเรา ซึ่งสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้อย่างดี
8. กลยุทธ์การตลาดเชิงอารมณ์ (Emotional Marketing Strategy) ใช้ความรู้สึกและอารมณ์ของลูกค้าในการดึงดูดให้พวกเขาสนใจและซื้อสินค้า
9. กลยุทธ์การตลาดเน้นคุณค่า (Value-Based Marketing Strategy) เน้นการสร้างมูลค่าให้แก่ลูกค้า โดยมุ่งเน้นไปที่คุณภาพของสินค้าและการให้บริการ
เคล็ดลับการเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสม
- ศึกษาพฤติกรรมลูกค้าอย่างละเอียด
- วิเคราะห์คู่แข่งและแนวโน้มตลาด
- เลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
- ใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- ติดตามผลลัพธ์และปรับปรุงกลยุทธ์ให้ดียิ่งขึ้น
สรุป
กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) จัดเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจ เพราะมีส่วนช่วยในการสร้างความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทตั้งขึ้นได้อย่างมีแบบแผนซึ่งการจะเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดแบบใดก็ต้องขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น เครื่องมือที่มีอยู่ ช่องทางที่ต้องการเข้าถึงลูกค้า แล้วจึงเลือกกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมและใช้งานแล้วได้ผลมากที่สุด กลยุทธ์การตลาดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ 4P, STP, หรือการตลาดดิจิทัล เพราะ กลยุทธ์การตลาดเปรียบได้กับกระดุมเม็ดแรกของการทำการตลาด กลยุทธ์เหล่านี้ จะช่วยให้การทำการตลาดของธุรกิจมีทิศทางที่ชัดเจน หากธุรกิจของคุณต้องการเติบโต การเปิดรับเทรนด์การตลาดแบบใหม่คือสิ่งที่จำเป็น และส่งผลดีให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างแน่นอน